1. หมูฮ้อง หรือ หมูเต้าอิ๋ว
ถ้าคนภาคอื่นเห็นอาจจะคิดว่า อ้ออ..หมูพะโล้ รึป่าว? แต่หมูเฉื่อยบอกเลยว่าคุณคิดผิด! เพราะหมูฮ้องนี้แค่มีลักษณะคล้ายหมูพะโล้ แต่ไม่ได้ใส่เครื่องพะโล้เลย นิยมใช้หมูสามชั้น หรือ หมูติดมัน คลุกเคล้าให้เข้ากันกับซีอิ้วขาว ใส่น้ำตาล หากสีไม่เข้มจะดูไม่น่ากินก็สามารถเพิ่มซีอิ้วดำช่วยในเรื่องความเข้มของสีได้ และเติมน้ำนิดหน่อย พอให้เนื้อหมูไม่แห้งมีน้ำขลุกขลิก หมูเฉื่อยเคยไปอ่านเจอในหลายๆบทความกล่าวว่า หมูฮ้องที่อร่อย เนื้อหมูจะต้องนิ่ม ไม่มีความเหนียวของตัวเนื้อหมู แต่ก็ต้องไม่เปื่อยยุ่ย รสชาติจะมีความหวานและเค็มนำของตัวน้ำซอสที่เข้าถึงเนื้อหมู
2. น้ำพริกภูเก็ต หรือ น้ำพริกกุ้งสด
น้ำพริกกุ้งสด หรือที่คนภูเก็ตเรียกว่า “น้ำชุบหยำ” หน้าตาอาจจะคล้ายน้ำพริกกะปิ แต่จะมีความเหลวมากกว่า รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน และเผ็ดขึ้นกับความชอบของผู้ทาน (สำหรับหมูเฉื่อยต้องออกไปทางเปรี้ยวหวาน เผ็ดน้อย
3. ฮูแช้
มาขั้นอาหารจานหลักด้วยอาหารว่างสักนิด หมูเฉื่อยขอแนะนำก่อนเลยว่า เมนูจานนี้เหมาะกับคนที่รักสุภาพและกำลังอยากจะลดความอ้วนแต่ไม่อยากต้องอดอาหารมากๆ เพราะ ฮูแช้ หรือที่บางคนอาจจะเรียก สลัดผักภูเก็ต เพราะมีหน้าตาคล้ายสลัดผักเลยแระ ทานคู่กับน้ำจิ้มสีแดง รสเปรี้ยวๆ หวานๆ และเผ็ดเล็กน้อย
4. หมี่หุ้นแกงปูใบชะพลู
เมนูนี้ส่วนตัวหมูเฉื่อยชอบมากที่สุด ไม่ว่าเพื่อนคนไหนแวะเวียนมาเยี่ยมถึงภูเก็ต เป็นอันต้องมีเสิร์ฟอยู่บนโต๊ะอาหารทุกครั้ง ส่วนผสมมาจากเครื่องพริกแกงใส่กะปิเคี่ยวกับหัวกะทิตั้งไฟอ่อนๆ คนจนส่วนผสมเข้ากันแล้วเริ่มมีกลิ่นหอมของเครื่องพริกแกง จึงค่อยๆเติมหางกะทิ และ ปรุงรสตามใจชอบ ใส่เนื้อปูล้วนๆเน้นๆ กับใบชะพลูสด เสิร์ฟร้อนๆ ทานคู่กับเส้นหมี่ขาว หรือ ที่คนภูเก็ตเรียก “หมี่หุ้น” พร้อมโรยกะเทียม
5. โอวต้าว
อาหารว่างแนวฮกเกี้ยนยอดฮิตของคนภูเก็ต หรือที่บางคนเรียกว่า “หอยทอดฮกเกี้ยน” ลักษณะอาจจะคล้ายกับหอยทอด แต่แป้งจะมีลักษณะเหนียวนุ่ม ไม่กรอบ ใช้หอยติบหรือหอยนางรมตัวเล็กและเผือกต้มสุกหั่นเป็นชิ้นขนาดลูกเต๋าเป็นเครื่องปรุงหลัก ผัดกับแป้งมันและไข่ไก่ ตามด้วยน้ำซอสพริก จนสีเหลืองสุกน่าทาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น