วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

อาหารไทยพื้นบ้านประจำจังหวัดต่างๆ



  1.ไส้กรอก-ปลาแนม


       
              เอ่ยชื่อ ไส้กรอก-ปลาแนม หลายคนยังอึ้งๆ งงๆ อยู่ ว่าคืออะไร ขอเท้าความนิดนึงค่ะ ไส้กรอกปลาแนมเป็นอาหารโบราณ ที่แม้แต่ในกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ก็มีเอ่ยถึงด้วยว่า “หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลาง พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย” เห็นภาพ หิวขึ้นมาทันที นี่แหละค่ะไส้กรอกปลาแนม จานเด็ด ของกรุงเทพฯ

มี 2 ส่วน คือปลาแนมที่ทำจากปลาช่อน ข้าวคั่ว และหมู ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวกับส้มซ่า มีรสหวานอมเปรี้ยว รับประทานคู่กับไส้กรอกข้าว และไส้กรอกหมูแบบโบราณ นั่นเอง
แหล่งจานเด็ด : ตลาดนางเลิ้ง


   2.แสร้งว่ากุ้ง




              แสร้งว่ากุ้ง หรือ ไตกุ้ง ต้องลองชิมดูสักครั้งแล้วจะติดใจ เป็นอาหารไทยโบราณที่ทำได้ง่ายๆ ค่ะ ใช้กุ้งเผาพอสุก แต่อย่าให้สุกมาก มาคลุกเคล้ากับ ผักและสมุนไพรต่างๆ เช่น ขิงอ่อน ตะไคร้ ปรุงรสชาติออกเปรี้ยว เค็ม หวาน คล้ายกับยำ แต่ไม่มีรสเผ็ดนั่นเอง

การปรุงน้ำยำที่มีเอกลักษณ์ตรงกลิ่นหอมนำของมะกรูด และตะไคร้ การผสมผสานของนานาพืชผักสมุนไพรของไทย ให้ออกรสกลมกล่อม แต่แฝงไว้ซึ่งความร้อนแรงแบบยำไทย และที่สำคัญจะให้ดีต้องเป็นกุ้งแม่น้ำที่อยุธยาเท่านั้น !
แหล่งจานเด็ด : ร้านอาหารต่างๆ ในอยุธยาส่วนใหญ่มีแบบทุกร้าน เช่น ร้านบ้านไม้ริมน้ำ, ครัวแตน, ร้านบ้านตะโกราย เป็นต้น

    3.หอยเสียบจิ้มมะละกอ




               หอยเสียบจิ้มมะละกอ ป็นอาหารทานเล่นของชาวบ้านที่ หัวหิน มานานค่ะ เราอาจจะเคยเดินๆไป  แล้วเจอร้านขายหอยเสียบจิ้มมะละกอ พร้อมของทะเลแห้งต่างๆ เสียบไม้วางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะให้เลือกกันสบายๆ เสียบไม้ขายเป็นมัดๆ ละ 5-6 ไม้ แล้วส่งให้แม่ค้าเอาไปปิ้งบนเตาถ่านให้ได้กลิ่นหอมๆ ชวนน้ำลายสอ

ไฮไลท์อยู่ที่ น้ำจิ้มทีเด็ด รสเผ็ดๆ หวานๆ เคล้ากับถั่วคั่วตำ และก็จะมีมะละกอดิบซอยเป็นเส้นๆ ให้มาพร้อม วิธีการทานก็คือ นำเส้นมะละกอใส่ไปในถ้วยน้ำจิ้ม แล้วก็ทานพร้อมๆ กับ หอยเสียบที่ปิ้งมาจนสุกนั่นเอง ดูง่ายๆ บ้านๆ แบบนี้ แต่ขอบอกว่า อร่อยอย่าบอกใคร !
แหล่งจานเด็ด : ร้านหอยเสียบป้าอู๊ด ซอยหัวหิน 70 หลังโรงเรียนหัวหิน, ร้านหอยเสียบป้าแดง ซอยหัวหิน 55, ร้านหอยเสียบพี่เบียร์ ซอยหัวหิน-ห้วยมงคล 11

     4.ปลาช่อนแดดเดียว




               สิงห์บุรี เป็นเมืองแห่งปลา และถ้ามาถึงต้องทานให้ได้ก็คือ เมนูนี้ค่ะ ปลาช่อนแดดเดียว ถือเป็นการถนอมอาหารแบบพื้นบ้านที่ได้รับความนิยม
วิธีเลือกปลาที่จะนำมาใช้ทำปลาแดดเดียว จะต้องเป็นปลาที่มีขนาด 5-6 ตัว ต่อกิโลกรัม จากนั้นเริ่มจากการแล่ปลา แล้วนำไปล้าง เสร็จแล้วนำไปหมักกับเกลือผสมน้ำตาลเล็กน้อย ทิ้งไว้ประมาณเกือบชั่วโมง แล้วให้นำไปล้างอีกครั้ง จากนั้นจึงนำไปตากในตู้พลังงานแสงอาทิตย์ค่ะ เมนูนี้จึงมักเป็นจานเด็ดของที่นี่ นิยมทานร่วมกับน้ำพริก และผักสด ผักลวกจิ้ม การันตีความอร่อยเหาะ
แหล่งจานเด็ด : ร้านแม่ลาปลาเผา, ตลาดเกษตร ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์, คุณกุ้ง ปลาแดดเดียวสิงห์บุรี หน้าศาลเจ้าตลาดสดเทศบาลเมืองสิงห์บุรี, แม่ลากาหลง ปตท.สายเอเชีย กม.86 (ขาเข้ากรุงเทพ), ร้านเจ๊สมศรี ปลาช่อนแดดเดียว

     5.บุหลันดั้นเมฆ

                


                   ชื่ออลังการขนาดนี้ เดาได้เลยว่า เด็กรุ่นใหม่ๆ อาจจะยังไม่รู้จักแน่ๆ เลยค่ะ ขนมบุหลันดั้นเมฆนี้ เป็นขนมชาววัง ด้วยแรงบันดาลใจจากเพลงบุหลันลอยเลื่อน หรือบุหลันลอยฟ้า เพลงพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2 ในความฝันเกี่ยวกับดวงจันทร์ค่ะ เป็นจานเด็ดของจังหวัดฉะเชิงเทราอีกด้วย
ขนมสีฟ้าส่วนตรงกลางเป็นสีเหลือง คล้ายๆ พระจันทร์ลอยอยู่กลางท้องฟ้า เป็นขนมเสี่ยงทายของคนสมัยก่อนเกี่ยวกับหน้าที่การงานค่ะ หากใครหยอดสีเหลืองตรงกลางนึ่งออกมาเสร็จแล้วเป็นรูปดวงจันทร์ที่สวยงามแสดงว่าโชคดี หากนึ่งออกมาแล้วไม่สวยถือว่าโชคไม่ดีนั่นเอง ที่สำคัญคือ รสชาติอร่อย หอมหวาน ละมุนลิ้น ต้องหาโอกาสไปทานให้ได้เลยทีเดียว
แหล่งจานเด็ด : ร้านขนมไทยคุณนันท์นภัส, ร้านเจ๊ ตลาดคลองสวน 100 ปี

      6.ปลาม้าแดดเดียว



             สุพรรณบุรี เป็นเมืองที่มีแม่น้ำลำคลองไหลผ่านมากมาย ทำให้มีเมนูปลาอร่อยๆ ที่ได้มาจากแม่น้ำเยอะแยะค่ะ และหนึ่งในนั้นก็คือ ปลาม้าแดดเดียว เมนูเด็ดประจำถิ่นที่ต้องห้ามพลาด
วิธีการของชาวบ้านดั้งเดิมเลยก็คือ ทำให้ปลาม้าสดๆ ที่เก็บมาได้นั้นสามารถเก็บไว้กินได้นานขึ้น โดยควักไส้ล้างทำความสะอาดให้ดี แล้วผึ่งให้แห้ง ก่อนจะนำมาเคล้ากับเกลือ หรือเครื่องปรุงอื่นๆ ตามสูตรของแต่ละบ้าน ก่อนจะนำไปตากแดดให้แห้ง แต่ต้องไม่แห้งสนิทเกินไป เนื่องจากเวลาทอดเนื้อจะแห้งแข็งไม่ฟูน่ากินเท่าไหร่ค่ะ
แหล่งจานเด็ด : ตลาดสามชุก

       7.ผัดหมี่แจ๊ะ


               ในภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “ผัดหมี่แจ๊ะ” คำว่า แจ๊ะ หมายถึง แฉะ เนื่องจากการผัดหมี่แบบนี้จะผัดให้เส้นหมี่ค่อนข้างนุ่มและแฉะๆ หน่อย ไม่แห้งแข็งกระด้าง เมนูนี้แตกต่างจากผัดหมี่ทั่วไปคือ มีรสหวาน เส้นนุ่มสีแดงเข้ม เพราะใช้มะเขือเทศสุกผัดรวมกับเส้นหมี่ ทำให้มองดูน่าทานนั่นเองค่ะ
เครื่องปรุงหลักๆ จะประกอบด้วย มะเขือเทศ หอมแดง กระเทียม พริกแห้ง ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปีบ เกลือป่น โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นฝอย กินแนมกับถั่วงอก และใบกุยช่าย
แหล่งจานเด็ด : ตลาดต้าน้ำโบราณบ้านต้นตาล, ผัดหมี่ไท-ญวน ตรา ป้าแวม


       8.เต้าหู้ดำ



                เต้าหู้ดำ เมนูอร่อยของ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี อาหารดั้งเดิมของชาวจีนแต้จิ๋วค่ะ ที่จะกินเต้าหู้ดำเปล่าๆ หรือปรุงเป็นเมนูอาหาร ก็อร่อยสุดๆ
ความอร่อยของ เต้าหู้ดำ อยู่ที่การนำเต้าหู้มาต้มในน้ำพะโล้ ด้วยไฟปานกลางนาน 3 วัน จนน้ำพะโล้ซึมเข้าเป็นเนื้อเดียวกับเต้าหู้ จึงได้รสชาติหวานหอม กลมกล่อมกำลังดี หลายคนเอามาทำเป็นหลายเมนูน่าทานมากๆ อีกด้วย แถมยังดีต่อสุขภาพค่ะ
แหล่งจานเด็ด : ร้านแม่เล็ก เต้าหู้ดำ โพธาราม ถนนราษฎรอุทิศ (ซอยจับกัง), ตลาดเก่าโพธาราม


      9.สาหร่ายพวงองุ่น



             สาหร่ายพวงองุ่น หรือ คาร์เวียร์สีเขียว กำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทยเราค่ะ ด้วยรสชาติกรุบกรอบจากผิวสัมผัส และเค็มเล็กน้อย เหมาะกับการนำมาทำยำที่รสชาติจัดจ้าน สาวๆ เลยชอบกันมาก
นอกจากนี้ คุณประโยชน์ของ สาหร่ายพวงอง่น ยังมีอีกมากมาย ให้คุณค่าอาหารสูง เช่น ไฟเบอร์ วิตามิน กรดอะมิโน ฯลฯ มากมายทีเดียว
แหล่งจานเด็ด : เนื่องจากเพชรบุรีเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สาหร่ายพวงองุ่นค่ะ ทำให้หาทานได้เกือบในทุกร้านอาหารของที่นี่เลยทีเดียว







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อาหารไทยยอดนิยม

1.ต้มยำกุ้ง         เมนูสุดซี๊ดที่ครองใจคนไทยที่ว่านี้คือ ต้มยำกุ้ง เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ วิธีทำก็คล้ายกับ...